ปัญหาการตลาดดิจิทัลของธุรกิจเภสัชภัณฑ์แผนปัจจุบันในประเทศไทยจากมุมมองผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
คำสำคัญ:
การตลาดดิจิทัล, ธุรกิจเภสัชภัณฑ์, การคิดเชิงออกแบบบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและระบุปัญหาของการตลาดดิจิทัลของธุรกิจเภสัชภัณฑ์ จากมุมมองผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในประเทศไทยโดยการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการคัดเลือกอย่างเจาะจง จากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตลาดผ่านสื่อดิจิทัลของธุรกิจเภสัชภัณฑ์ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา กลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็น 3 กลุ่มย่อยได้แก่ กลุ่มเป้าหมายการตลาดดิจิทัล ประกอบด้วยผู้บริโภคและบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มผู้ควบคุมจริยธรรมการตลาดดิจิทัล และกลุ่มนักการตลาดดิจิทัลของธุรกิจเภสัชภัณฑ์ รวม 53 คน เครื่องมือวิจัยได้แก่ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างประกอบการสัมภาษณ์เชิงลึก ข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์เนื้อหา ผลพบว่า ผู้บริโภคขาดแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและเข้าใจง่าย ต้องการปรึกษากับบุคลากรทางการแพทย์ผ่านสื่อดิจิทัล และขาดความรู้และถูกหลอกให้ซื้อยาปลอม บุคลากรทางการแพทย์ต้องการข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงที่แก้ปัญหาได้และกังวลต่อการเข้าถึงข้อมูลของกลุ่มผู้บริโภค กลุ่มผู้ควบคุมจริยธรรมการตลาดดิจิทัลประสบปัญหาปริมาณงานมาก งานซับซ้อน ต้องรัดกุม กังวลถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคจากการโฆษณาลวงหรือแอบแฝงขายยา ต้องการปรับเปลี่ยนกฎหมายให้ตอบสนองการตลาดดิจิทัล ต้องการให้ข้อมูลยาอย่างถูกต้องจากวิชาชีพ และขาดการควบคุมการกระทำผิดตั้งแต่ต้นทาง กลุ่มนักการตลาดดิจิทัลถูกจำกัดด้วยกฎระเบียบการโฆษณาและสื่อสารดิจิทัลไปยังบุคลากรทางการแพทย์ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ผลการวิจัยเสนอแนะการพัฒนาแหล่งข้อมูลยา การปรับเปลี่ยนกฎหมายและรูปแบบการกำกับดูแลการตลาดดิจิทัล พัฒนาการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลของผู้บริโภคและจรรยาบรรณของนักการตลาดในธุรกิจเภสัชภัณฑ์ในประเทศไทย
เอกสารอ้างอิง
กฤษณาพร ทิพย์กาญจนเรขา, ศิริธร ยิ่งเรงเริง, จันทิมา เขียวแก้ว, กันยารัตน์ อุบลวรรณ, เนติยา แจ่มทิม และ วรนาถ พรหมศวร. (2560). พฤติกรรมการแสวงหาข้อมูลสุขภาพจากสื่อออนไลน์และสื่อสังคมของผู้สูงอายุตามระดับการรับรู้ภาวะสุขภาพ. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 11 (ฉบับพิเศษ), 12-22.
ฉลองศักดิ์ ศิริกันรัตน์. (2559). ปัญหาทางกฎหมายที่เกี่ยวกับการโฆษณาขายยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเวชภัณฑ์ทางการแพทย์และเครื่องสําอางผ่านเวบไซต์,วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, 7(2), 113-128.
ชาติชาย วิริยะเจริญกิจ และ สุรัสวดี แสนสุข. (2562). มาตรการควบคุมอาวุธปืนในประเทศไทย: ปัญหาและแนวทางแก้ไข. วารสารศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 6(2), 91-108.
ณพล ผลากรกุล และบุหงา ชัยสุวรรณ. (2559). ผลกระทบจากโฆษณาบนเฟซบุ๊ก และแนวทางการรู้เท่าทันสื่อโฆษณาบนเฟซบุ๊ก.วารสารการสื่อสารและการจัดการ นิด้า, 2(1), 18-42.
ณัฐธีรยา วิชกิจ และ อนันต์ ช่วยนึก. (2557). มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมการโฆษณาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามบนอินเทอร์เน็ต. วารสารวิชาการบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 10(1), 269-276.
นงนุช ใจชื่น, จิราภรณ์ กมลรังสรรค์ และ สุรศักดิ์ ไชยสงค์. (2560). สถานการณ์ ช่องว่างและโอกาสในการควบคุมการตลาดและการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 11(1), 11-25.
ประกาย หมายมั่น. (2561). การสำรวจการขายยาผ่านเว็บไซต์ขายสินค้าซึ่งเป็นที่นิยมในประเทศไทย. วารสารเภสัชกรรมไทย, 11(2), 368-377.
สำนักยา กระทรวงสาธารณสุข. (2510). พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 และฉบับแก้ไข. สืบค้น 20 เมษายน 2563, จาก http://www.fda.moph.go.th/sites/drug/SitePages/AD-Rule01.aspx
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน. (2562). อุตสาหกรรมยา. สืบค้น 1 เมษายน 2563. จาก https://www.gsbresearch.or.th/gsb/economics/industrial-economics /industry-update/manufacturing/medicine/1744/
BizNews. (2563). ผู้บริโภคโปรดทราบ! ‘อาหาร/ ยา/ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ’ พบ ‘ปัญหาโฆษณาเกินจริง’. สืบค้น 15 มีนาคม 2563. จาก http://www.bizpromptinfo.com/อาหาร-ยา-ผลิตภัณฑ์สุขภา/
Boruff, J. T., & Storie, D. (2014). Mobile devices in medicine: a survey of how medical students, residents, and faculty use smartphones and other mobile devices to find information. Journal of the Medical Library Association: JMLA, 102(1), 22-30.
Creswell, J.W. (2013). Qualitative Inquiry & Research Design: Choosing Among the Five Approaches. Thousand Oaks, CA: SAGE Publications, Inc.
Dam, R. & Siang, T. (2019). What is Design Thinking and Why Is It So Popular?. Retrieved April 20, 2020, from https://www.interaction-design.org/literature/article/what-is-design-thinking-and-why-is-it-so-popular
Dworkin, S. L. (2012). Sample size policy for qualitative studies using in-depth interviews. Archives of Sexual Behavior, 41(6), 1319-1320.
Girardi. (2017). The Evolving Role of Digital Marketing in Healthcare. Retrieved September 28, 2018, from https://www.evariant.com/blog/evolving-role-digital-marketing-healthcare
Jacobs, W., Amuta, A. O., & Jeon, K. C. (2017). Health information seeking in the digital age: An analysis of health information seeking behavior among US adults. Cogent Social Sciences, 3(1), 1-11.
Limbu, Y. B., McKinley, C., & Temperini, V. (2018). A Longitudinal Examination of FDA Warning and Untitled Letters Issued to Pharmaceutical Companies for Violations in Drug Promotion Standards. Journal of Consumer Affairs, 53(1), 3-23.
Mackey, T. K., Cuomo, R. E., & Liang, B. A. (2015). The rise of digital direct-to-consumer advertising?: Comparison of direct-to-consumer advertising expenditure trends from publicly available data sources and global policy implications. BMC health services
research, 15(1), 236.
Malterud, K., Siersma, V. D., & Guassora, A. D. (2016). Sample size in qualitative interview studies: guided by information power. Qualitative health research, 26(13), 1753-1760.
Pantelic, D. (2009). Internet as a Medium of Pharmaceutical Companies Promotional Activities. Management Information Systems, 4(1), 29-37.
Parekh, D., Kapupara, P., & Shah, K. (2016). Digital Pharmaceutical Marketing: A Review. Research. Journal of pharmacy and technology, 9(1), 108-112.
Roberts, J. P., Fisher, T. R., Trowbridge, M. J., & Bent, C. (2016). A design thinking framework for healthcare management and innovation. Paper presented at the Healthcare
