รูปแบบการเรียนรู้ตามแบบสะตีมร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐาน สำหรับกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

Main Article Content

มิรันตี เหล่าเกิด

บทคัดย่อ

          ปัจจุบันสะตีมศึกษา (STEAM Education) เป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และแสดงให้เห็นประโยชน์ในเชิงบวกต่อการเรียนรู้ของนักเรียนในด้านวิทยาศาสตร์อย่างเป็นรูปธรรม บทความวิชาการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสังเคราะห์รูปแบบการเรียนรู้แบบสะตีมร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐาน สำหรับกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งใช้กระบวนการสังเคราะห์เอกสารที่เกี่ยวข้อง กำหนดองค์ประกอบ และสรุปผลเป็นขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับบริบทของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เพื่อการส่งเสริมให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
            ผลการศึกษาพบว่า การจัดการเรียนรู้แบบสะตีมร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐาน ประกอบด้วย 8 ขั้นตอน ได้แก่  1) นำเข้าสู่บทเรียนด้วยสถานการณ์ที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริง 2) เชื่อมโยงสถานการณ์กับวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 3) ระบุปัญหาและทำความเข้าใจ 4) ออกแบบกระบวนการ/ชิ้นงานเพื่อแก้ปัญหา 5) ทดสอบและปรับปรุงชิ้นงาน 6) บูรณาการศิลปะสร้างสรรค์ 7) แลกเปลี่ยนเรียนรู้  และ 8) สรุปและประเมินผล


 

Article Details

How to Cite
เหล่าเกิด ม. (2024). รูปแบบการเรียนรู้ตามแบบสะตีมร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐาน สำหรับกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 . วารสารวิจัยและพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง, 3(3), 1–12. สืบค้น จาก https://so14.tci-thaijo.org/index.php/RDGMSJournal/article/view/821
บท
บทความวิจัย

References

กมลกานต์ ศรีธิ. (2561). การวิจัยปฏิบัติการเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานที่ส่งเสริมการรู้เรื่องคณิตศาสตร์ เรื่อง ภาคตัดกรวย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารวิชาการและวิจัยสังคมศาสตร์. 13(37). 105-118.

เกรียงไกร พละสนธิ. (2559). การพัฒนารูปแบบคลาวด์เลิร์นนิงแบบสะตีมด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมเพื่อพัฒนาทักษะการสร้างสรรค์และนวัตกรรมสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ).

จารีพร ผลมูล, สุนีย์ เหมะประสิทธิ์ และเกริก ศักดิ์สุภาพ (2558). การพัฒนาหน่วยการเรียนรู้บูรณาการแบบ STEAM สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 : กรณีศึกษา ชุมชนวังตะกอ จังหวัดชุมพร. วารสารวิจัย มข.(ฉบับบัณฑิตศึกษา). 3(2). 1-13.

ญาติมา โสภานิช. (2562). การพัฒนาวิธีการประเมินทักษะการแก้ปัญหาในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม).

ทิพวรรณ เมืองพิล. (2562). การศึกษาทักษะการแก้ปัญหาตามแนวทางสะเต็มศึกษา เรื่อง งานและพลังงาน ของนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม).

ธัชทร โพธิ์น้อย. (2561). การใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ในวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดสองพี่น้อง. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์).

ธีระชัย เอี่ยมผ่อง. (2562). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานตามแนวทางสะเต็ม เรื่อง การประยุกต์การแปลงทางเรขาคณิต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา).

บุญยนุช สิทธาจารย์. (2561). การพัฒนาชุดการสอนศิลปะ ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาเพื่อส่งเสริมกระบวนการสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).

พัชราภรณ์ พุทธิกุล. (2560). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดสตีมศึกษาเพื่อส่งเสริมการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร).

มินตรา กระเป๋าทอง. (2561). การสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะตีมศึกษา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่4. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์).

วทัญญู สุวรรณประทีป. (2559). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีศึกษาเป็นฐานร่วมกับปัญหาเป็นฐานและแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร).

วรรณพร ชูจิตารมณ์. (2561). รูปแบบการเรียนรู้สะตีมการ์ฟิลด์เพื่อส่งเสริมความเพียร. (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ).

ศรัญญา ขันทอง. (2562). ผลการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ลำดับและอนุกรมอนันต์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้โมเดล ซิปปา (CIPPA MODEL) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์).

สุนารี ศรีบุญ. (2561). ผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด STEAM Education โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะและ

กระบวนการทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร).

สุมัทนา ดุลนีย์. (2563). การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อประสมเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏสารคาม).

เสาวรส ศรีอุ่นดี. (2561). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 โรงเรียนชุมชนบ้านโคน โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL). (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต,มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม).

หทัยภัทร ไกรวรรณ. (2559). การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสตีมศึกษาที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์).

หหัยทิพย์ รินศรี. (2562). การพัฒนาหลักสูตรการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะในการจัดทำบัญชีสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง).

หิรัญทรัพย์ เพียเสนา. (2562). การพัฒนาชุดฝึกทักษะวิชาคอมพิวเตอร์ โดยการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ร่วมกับเทคนิค Jigsaw ที่ส่งผลต่อการแก้ปัญหาวินัยในตนเองและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร).

อมรรัตน์ ศรีพอ. (2561). กลยุทธ์การบริหารวิชาการโรงเรียนมัธยมศึกษาเอกชนตามแนวคิดทักษะความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

และทักษะการคิดเชิงนวัตกรรม. (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฏีบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).

Antonenko, P. D., Hudson, G., Townsend, R., and Pritchard, J. (2011). DEEPER e-learning with environment for collaborative learning integrating problem solving experiences (ECLIPSE). Proceedings of World Conference on E-Learning in Corporate, Government, Healthcare, and Higher Education, 1(1), 1811-1816.

Barrows, Haward S., and Tamblyn M. P. (1980). Problem –Based Learning: An Approach to Medical Education. New York: Springer Publishing Company.

Georgette Yakman, and Hyonyong Lee. (2012). Exploring the exemplary STEAM education in the US as a

practical educational framework for Korea. Journal of the Korean Association for Science Education, 32(6), 1072-1086.

Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology (IPST). (2014). Introduction of STEM Education. Retrieved Retrieved from https://www.scimath.org/stem

Kim and Park. (2012). Development and Application of STEAM Teaching Model Based on the Rube

Goldberg’s Invention. Computer Science and its Applications, Lecture Notes in Electrical Engineering, 1(203), 695-697.

Riley, S. M. (2014). No permission required: A guide of being STEAM to life K-12 schools. Green Street Westminster: The Vision Board,LLC.