พลวัตของข้อสอบสังคมศึกษาระดับชาติในระบบการศึกษาไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นพลวัตและแนวโน้มของการจัดทำข้อสอบ และเนื้อหาข้อสอบวิชาสังคมศึกษาระดับชาติในประเทศ โดยใช้วิธีวิจัยพิเคราะห์เชิงประวัติศาสตร์ เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ เพื่อให้เห็นพลวัตของข้อสอบวิชาสังคมศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2548 จนถึงปีการศึกษา 2564 และเก็บข้อมูลจากหลักฐานชั้นต้นคือข้อสอบโอเน็ต ข้อสนเทศหนังสือพิมพ์ รวมถึงหลักฐานชั้นรองจากงานวิจัย และเอกสารต่างๆ
ข้อสอบระดับชาติ วิชาสังคมศึกษามีพัฒนาการมาจากระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เริ่มตั้งแต่ปลายทศวรรษ 2500 การสอบระดับชาติในนาม “โอเน็ต” เริ่มใช้กับนักเรียนระดับชั้น ม.6 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2548 โดยการจัดของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) การจัดสอบในระดับชั้น ม.3 และ ป.6 ถือเป็นลำดับถัดมา การสอบโอเน็ตในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา มีความเกี่ยวพันกับการบ่มเพาะอุดมการณ์ทางสังคมการเมือง เนื้อหาของกลุ่มวิชาสังคมศึกษาวางอยู่บนแกนชาติ พุทธศาสนา และกษัตริย์ นักเรียนจึงไม่ได้รับการสอนทักษะในการตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์มากนัก
แม้การสอบโอเน็ตจะประสบปัญหาและข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก แต่ทำให้ระบบการศึกษาไทยถูกเปิดเผยออกมาในเชิงสถิติอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ลักษณะเช่นนี้ได้ส่งผลต่อการตระหนักถึงปัญหาการศึกษาในผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงและโดยอ้อม กลายเป็นหัวข้อของการถกเถียงเพื่อหวังจะปรับปรุงและยกระดับคุณภาพการศึกษาของไทยให้ดีกว่าเดิม
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อเขียนหรือบทความใดๆ ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิจัยและพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Online) ฉบับนี้ เป็นความคิดเห็นเฉพาะส่วนตัวของผู้เขียนและกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และวารสารวิจัยและพันาอนุภูมิภาค ลุ่มน้ำโขง (Online) ไม่มีข้อผูกพันธ์ประการใดๆ อนึ่งกองบรรณาธิการวารสารยินดีรับพิจารณาบทความจากนักวิชาการ นักศึกษา ตลอดจนผู้อ่าน และผู้สนใจทั่วไป เพื่อนำลงตีพิมพ์ สำหรับบทความจะผ่านการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกสถาบัน
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551.กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
กระทรวงศึกษาธิการ. (22 ธันวาคม 2563). หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง การยกเลิกการทดสอบทางการศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2563.
กระทรวงศึกษาธิการ. (9 กุมภาพันธ์ 2564). ประกาศกระทรวง เรื่อง นโยบายการใช้ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนที่จบการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551.
กระทรวงศึกษาธิการ. (15 กันยายน 2564). ประกาศกระทรวง เรื่อง ยกเลิกการใช้ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนที่จบการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551.
ข่าวสด. (19 เมษายน 2550). “‘วิจิตร’ ค้านกพฐ.ดึงโอเน็ตวัดจบช่วงชั้น”. (หนังสือพิมพ์).
ข่าวสด. (13 พฤษภาคม 2551). “สพฐ.รับโอเน็ตไม่กระเตื้อง-3ปีปรับตัว”. (หนังสือพิมพ์).
ข่าวสด.(26 เมษายน 2561). “ชี้ทีมวิเคราะห์จุดอ่อนสถาบันการศึกษา”. (หนังสือพิมพ์).
คมชัดลึก. (2554). "สทศ.วิเคราะห์โอเน็ต3ปีวิชาหลักคะแนนไม่ถึง50%".". สืบค้นเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/94266
ณัทธนัทธ์ เลี่ยวไพโรจน์. (2561). จินตกรรมชาติไทยในแบบเรียนสังคมศึกษา ทศวรรษที่ 2500-2560. (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์).
เดลินิวส์. (2563). “'ครู'โอดโจทย์ข้อสอบ'O-NETป.6' โชว์กิ๋นไม่วัดความรู้เด็ก”. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 จาก
https://www.dailynews.co.th/regional/756149
ไทยโพสต์. (2563). “ตั้งทีมวิเคราะห์ทำไมข้อสอบโอเน็ตยาก พร้อมเล็งเติมคุณค่าโอเน็ตให้มีความสำคัญกับเด็ก”.สืบค้นเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 สืบค้นจาก https://www.thaipost.net/main/detail/58277
มติชน. (14 มิถุนายน 2549ก). “อึ้ง! คะแนนโอเน็ตเด็กไทยต่ำกว่าครึ่ง”. (หนังสือพิมพ์).
มติชน. (20 พฤศจิกายน 2549ข). “แอดมิสชั่นส์ ’52 สอบโอเน็ต 8 กลุ่มฯ พร้อมประเมินคุณธรรมจริยธรรม”. (หนังสือพิมพ์).
มติชน. (4 เมษายน 2550ก). “คะแนนสูงสุด-ต่ำสุดสอบโอเน็ต”. (หนังสือพิมพ์).
มติชน. (5 เมษายน 2550ข). “ ‘วิจิตร’ รับผลโอเน็ตชี้การศึกษาแย่ เร่งร.ร.ปรับการเรียนการสอนใหม่ ”. (หนังสือพิมพ์).
มติชน.(25 กรกฎาคม 2551). “จุฬาฯวิจัยพบ1.2พัน ร.ร.ปล่อยเกรด”. (หนังสือพิมพ์).
มติชน. (8 เมษายน 2552). “โทษครูวิทย์-คณิตแห่เออร์ลี่ฯ ต้นเหต ‘โอเน็ต’ ต่ำเกณฑ์”. (หนังสือพิมพ์).
มติชน. (31 มีนาคม 2555). “ไขปริศนา ‘เด็กม.6’ สอบตกโอเน็ต”. (หนังสือพิมพ์).
มติชน. (21 มีนาคม 2560). “โอเน็ต ‘ม.6’ ผ่านแค่ภาษาไทย”. (หนังสือพิมพ์).
มติชน.(1 เมษายน 2561). “โอเน็ตม.6ไม่ถึงครึ่งทุกวิชา”. (หนังสือพิมพ์).
วรรณโชค ไชยสะอาด. (2559). "ชำแหละ "ข้อสอบระดับชาติ" เพิ่มเด็กด้อยโอกาส-ไม่สะท้อนความรู้ในห้องเรียน". สืบค้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 จาก https://www.posttoday.com/politic/report/415386
ศศิธร ภู่วาว และมาเรียม นิลพันธุ์. (2565). "การสร้างข้อสอบสังคมศึกษาเพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้". วารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร, 5(1), 252-265.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). "ข้อสอบ O-NET". สืบค้นจาก
https://www.niets.or.th/th/catalog/view/630
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
อภัยชนม์ สัจจะพัฒนกุล. (2560). “มโนทัศน์ “ความเป็นไทย” ในวิชาสังคมศึกษา: การเปลี่ยนผ่านบนพื้นที่เชิงอำนาจในสังคมยุคหลังสมัยใหม่,”. วารสารอารยธรรมศึกษาโขง-สาละวิน, 8(2), 221-245.
Mathison, S, Ross, W and Vinson, K.. (2006). Defining the Social Studies Curriculum: Influence of and Resistance to Curriculum Standards and Testing in Social Studies.The Social Studies Curriculum Purposes, Problems, and Possibilities. New York : University of New York Press.