ความต้องการสารสนเทศและแนวพัฒนาการบริการสารสนเทศสู่ชุมชน สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยทักษิณ
คำสำคัญ:
การบริการสารสนเทศ, บริการสารสนเทศสู่ชุมชน, สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยทักษิณบทคัดย่อ
การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการอ่าน การใช้ห้องสมุดของชุมชน เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะต่อการจัดบริการของสำนักหอสมุด และกำหนดแนวพัฒนาการบริการสารสนเทศของสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยทักษิณ ให้ชุมชนเข้าถึงมากขึ้น รวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่สุ่มตามความสะดวกจากประชาชนในพื้นที่อำเภอเมืองสงขลา และอำเภอที่มีเขตพื้นที่ติดต่ออีก 4 อำเภอ ๆ ละ 90 คน รวมทั้งสิ้น 450 คน ด้วยการสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่และค่าร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า สถานภาพการศึกษา ด้านหน้าที่การงานมีผลต่อการอ่าน การใช้ข้อมูลสารสนเทศและการใช้ห้องสมุด โดยนักเรียน นิสิต นักศึกษา และครูอาจารย์ อ่านหนังสือมาก (มากกว่า 5 เล่มต่อปี) ความถี่ในการใช้ห้องสมุดสูง ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ อ่านหนังสือระดับกลาง ๆ (3-5 เล่มต่อปี) เข้าห้องสมุดเป็นอันดับรองลงมา ส่วนประชาชนทั่วไป และเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นส่วนใหญ่ยังอ่านหนังสือน้อย (น้อยกว่า 2 เล่มต่อปี) บริการของสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยทักษิณ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบข้อมูลการบริการ มีอาจารย์ ข้าราชการพนักงานรัฐวิสาหกิจ เข้ามาเกี่ยวข้อง และใช้บริการบ้างเพียงส่วนน้อย ศิษย์เก่าเคยใช้บริการทุกคนสมัยที่เป็นนิสิต แต่เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วก็ไม่เข้าใช้บริการเช่นกัน ประชากรส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะเข้าถึงสารสนเทศผ่านเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น ส่วนการพัฒนาการบริการสารสนเทศของสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยทักษิณ ให้ชุมชนเข้าถึงได้มากขึ้นจำเป็นต้องพัฒนาการบริการผ่านเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศด้วยเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) เพื่อเข้าถึงจากภายนอกได้สะดวก มีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมบริการหลายช่องทาง ตั้งเครือข่ายชมรมนักอ่านในชุมชนเป็นสมาชิกพิเศษจะช่วยประชาสัมพันธ์สื่อความประสงค์ลดช่องว่างให้ชุมชนเข้าถึงพึ่งได้ จัดการสภาพสิ่งแวดล้อมให้ร่มรื่น มีสิ่งอำนวยความสะดวกเอื้อต่อผู้พิการ มีอาหารเครื่องดื่ม มีกิจกรรมบันเทิงสำหรับพักผ่อน จำหน่ายอุปกรณ์เครื่องเขียนเพื่อความสะดวก จะช่วยให้การบริการมีประสิทธิภาพเข้าถึงชุมชนมากขึ้น
References
“นายกฯ เปิดโครงการ ร.ร. ดีประจำตำบลต้นแบบ,” (2553, 6 พฤศจิกายน). คมชัดลึก. หน้า 13.
ทิพย์พาพร มหาสินไพศาล. (2556). “การรับรู้และความต้องการข่าวสารการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี 2558,” BU ACADEMIC REVIEW. 12(1), 76-81.
ธเนศ กองประเสริฐ. (2555). กรุงเทพฯ : เมืองหลวงหนังสือของโลกปี 2013. สืบค้นเมื่อ 15 ตุลาคม 2555, จาก http://www.thaiworld.org/th/thailand_monitor/answer.php?question_id=1172
พรทิพย์ ชาตะรัตน์. (2544). การศึกษานิสัยการอ่านในรูปแบบของการศึกษาตามอัธยาศัยของประชาชนชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมในภาคใต้. สงขลา : ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนภาคใต้ จังหวัดสงขลา.
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542. (2542, 19 สิงหาคม). ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม 116, ตอนที่ 74 ก, หน้า 4, 9.
วรัญญา ภัทรสุข. (2545). ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศรีรัตน์ เจิงกลิ่นจันทร์. (2542). การอ่านและการสร้างนิสัยรักการอ่าน (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช.
สานักงานสถิติแห่งชาติ. (2548). การสำรวจพฤติกรรมการอ่านหนังสือของประชากร พ.ศ. 2548. กรุงเทพฯ : สำนักสถิติเศรษฐกิจและสังคม.
Zickuhr, K., Rainie, L. and Purcell, K. (2013). Library services in the digital age. Retrieved March 22, 2013, from http://libraries.pewinternet.org/