มาตรการทางกฎหมายในการป้องกันภาวะมลพิษทางทะเล: ศึกษากรณีมาตรการในการตรวจสอบความเป็นเจ้าของเครื่องมือประมง
คำสำคัญ:
ภาวะมลพิษทางทะเล, เครื่องมือประมงที่ถูกละทิ้ง สูญหาย หรือถูกทิ้ง, การตรวจสอบความเป็นเจ้าของเครื่องมือประมง, การจัดทำเครื่องหมายประจำเครื่องมือประมงบทคัดย่อ
การทำการประมงพาณิชย์นั้นเป็นการทำประมงที่มีขนาดใหญ่กว่าการทำประมงพื้นบ้าน โดยมีการใช้เรือประมงและเครื่องมือประมงจำนวนมากเพื่อออกไปทำการประมงในทะเลของน่านน้ำไทย จึงมีโอกาส
ที่เครื่องมือประมงเหล่านี้จะได้รับความเสียหาย สูญหาย หรือถูกทิ้งลงสู่ทะเล ไม่ว่าจะเป็นการกระทำด้วย
ความจงใจ หรือไม่จงใจของผู้ทำประมงก็ตาม ทั้งนี้ เมื่อเครื่องมือประมงเกิดการสูญหายหรือถูกทิ้งสู่ทะเล
ย่อมทำให้ปะการังได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง และยังสร้างความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมทางทะเลชนิด
อื่นด้วย ซึ่งถือได้ว่าก่อให้เกิดปัญหาภาวะมลพิษทางทะเลอย่างร้ายแรง ซึ่งปัญหาภาวะมลพิษทางทะเลอันเกิดจากเครื่องมือประมงที่สูญหายหรือถูกทิ้งลงสู่ทะเลโดยที่ไม่มีการจัดทำเครื่องหมายประจำเครื่องมือประมง
ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง
อย่างไรก็ตาม การค้นหาและการกู้คืนเครื่องมือประมงในทะเลนั้นไม่สามารถกระทำได้โดยง่าย
และการที่หน่วยงานของรัฐไม่สามารถตรวจสอบถึงความเป็นเจ้าของเครื่องมือประมงจากเครื่องมือประมงดังกล่าวได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลความเป็นเจ้าของเครื่องมือประมง ข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเรือประมง หรือข้อมูล
ที่เป็นรายละเอียดการจดทะเบียนเรือ จึงทำให้ไม่อาจระบุได้ว่าบุคคลใดเป็นเจ้าของเรือประมงที่ใช้เครื่องมือประมงที่สูญหายหรือถูกทิ้งลงสู่ทะเลดังกล่าวในการทำการประมง และไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่
เพื่อลงโทษบุคคลดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการป้องกันมิให้ปัญหาภาวะมลพิษทางทะเลดังกล่าวเกิดขึ้นได้
บทความฉบับนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อทำการศึกษาถึงมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันภาวะมลพิษทางทะเลอันเกิดจากเครื่องมือประมงที่สูญหายหรือถูกทิ้งลงสู่ทะเลโดยที่ไม่มีการจัดทำเครื่องหมายประจำเครื่องมือประมง ทั้งนี้ เป็นไปโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์เกี่ยวกับมาตรการในการตรวจสอบความเป็นเจ้าของเครื่องมือประมง โดยการกำหนดมาตรการให้ต้องมีการจัดทำเครื่องหมายประจำเครื่องมือประมงว่ามาตรการในการกำกับดูแลปัญหาดังกล่าวที่มีความเหมาะสมควรมีลักษณะอย่างไร รวมถึงองค์กร
ของรัฐองค์กรใดที่มีความเหมาะสมในการกำกับดูแลปัญหาดังกล่าว
การศึกษาในครั้งนี้ได้ทำการศึกษาถึงหลักการพื้นฐานทางกฎหมายสิ่งแวดล้อม และหลักการทางกฎหมาย ทั้งกฎหมายภายในของประเทศไทย และกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงกฎเกณฑ์ที่ไม่ได้มีสถานะเป็นกฎหมายระหว่างประเทศด้วย เพื่อค้นหามาตราการที่เหมาะสมในการกำกับดูแลปัญหาภาวะมลพิษ
ทางทะเลอันเกิดจากเครื่องมือประมงที่สูญหายหรือถูกทิ้งลงสู่ทะเล จากการวิเคราะห์มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการตรวจสอบความเป็นเจ้าของเครื่องมือประมงโดยการจัดทำเครื่องหมายประจำเครื่องมือประมง
ของประเทศไทยเปรียบเทียบกับอนุสัญญาระหว่างประเทศ และแนวทางขององค์การระหว่างประเทศ
จากการศึกษา พบว่า บทบัญญัติกฎหมายของประเทศไทยที่มีผลใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันนั้น แม้จะสามารถใช้บังคับในการลงโทษบุคคลที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรทางทะเลได้ก็ตาม แต่เมื่อปราศจากมาตรการทางกฎหมายในการตรวจสอบถึงความเป็นเจ้าของเครื่องมือประมงแล้ว ย่อมทำให้ไม่สามารถ
ที่จะนำตัวบุคคลดังกล่าวมาลงโทษตามกฎหมายได้ จึงเห็นได้ว่าบทบัญญัติกฎหมายของประเทศไทยที่มีอยู่
ในปัจจุบันนั้นไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการที่จะป้องกันภาวะมลพิษทางทะเลที่เกิดขึ้น และหากไม่มีการแก้ไขบทบัญญัติกฎหมายในเรื่องมาตรการในการตรวจสอบความเป็นเจ้าของเครื่องมือประมงแล้ว ปัญหาดังกล่าวคงจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรทางทะเลของประเทศไทยอย่างมิอาจประเมินค่าได้
ด้วยเหตุดังกล่าว ประเทศไทยจึงมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างมาตรการในการกำกับดูแลปัญหา
ที่เหมาะสม โดยการสร้างระบบในการจัดทำเครื่องหมายประจำเครื่องมือประมงสำหรับการทำการประมงพาณิชย์ในน่านน้ำไทย โดยนำเอาแนวทางตามความสมัครใจในการจัดทำเครื่องหมายของเครื่องมือประมงขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติและประกาศกรมประมงที่เกี่ยวข้องมาเป็นต้นแบบ
ในการสร้างระบบให้มีความเหมาะสม และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง รวมถึงการมอบหมายภารกิจแก่องค์กร
ที่มีความเหมาะสมในการกำกับดูแลปัญหาดังกล่าวด้วย
เอกสารอ้างอิง
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, ‘พบซากเต่าตนุ เกยชาดหาดชุมพร ผลชันสูตรชี้ติดขยะทะเลจมน้ำ’ (กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, 5 กุมภาพันธ์ 2559) <https://www.dmcr.go.th/detailAll/7969/nws/22?fbclid=IwAR3szqqABc09
spiHDLD3Sva9gXZ19KOrET4ziyKXYEfMucPXdSmkacOA-pc> สืบค้นวันที่ 29 กรกฎาคม 2566.
เฉลียว นครจันทร์ และศิริพงศ์ โสภา, ‘ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย’ (2561) 4 วารสารวิชาการสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค 248, 241-259. <https://so05.tci-thaijo.org/
index.php/pacific/article/view/178001/126629> สืบค้นวันที่ 1 พฤษภาคม 2566.
ผู้จัดการออนไลน์, ‘ทช.เผยภาพภารกิจกู้อวนยักษ์ที่ตกคลุมแนวปะการัง เกาะโลซิน จ.ปัตตานี ได้สำเร็จ!’ (ผู้จัดการออนไลน์, 21 มิถุนายน 2564) <https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000059692> สืบค้นวันที่ 2 มีนาคม 2566.
บุญศรี มีวงศ์อุโฆษ, กฎหมายสิ่งแวดล้อมเปรียบเทียบ (พิมพ์ครั้งที่ 1, โครงการตำราและเอกสารประกอบการสอน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2560) .
สุรพล สินธุนาวา, สมพรชัย ชัยประสิทธิ์ และจักรินทร์ สมมติ, ‘กฎหมายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจประเทศของไทย’ (2564) 2 วารสารวิชาการสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.) 149, 153-154. <https://so06.tci-thaijo.org/index.php/apheit-ss/article/download/245943/
/> สืบค้นวันที่ 1 พฤษภาคม 2566.
อุดมศักดิ์ สินธิพงษ์, กฎหมายว่าด้วยความเสียหายทางสิ่งแวดล้อม ความรับผิดทางแพ่ง การชดเชยเยียวยา และการระงับข้อพิพาท (พิมพ์ครั้งที่ 1, สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2554).
อุดมศักดิ์ สินธิพงษ์, กฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม (พิมพ์ครั้งที่ 5, สำนักพิมพ์วิญญูชน 2561).
Article 15 of The Rio Declaration on Environment and Development 1992 “In order to protect the environment, the precautionary approach shall be widely ap plied by States according to their capabilities. Where there are threats of serious or irreversible damage, lack of full scientific certainty shall not be used as a reason for postponing cost-effective measures to prevent environmental degradation.”
Graeme Macfadyen, Tim Huntington, and Rod Cappell, Abandoned, lost or otherwise discarded fishing gear (UNEP Regional Seas Reports and Studies, No.185 FAO Fisheries and Aquaculture Techmical Paper, No.523 2009) 42. <https://www.fao.org/fileadmin/user_upload/newsroom/docs/Ghost_fishing_report.pdf> accessed 5 May 2023.