การพัฒนากลไกทางกฎหมายในระบบการแจ้งเตือนภัยเมื่อเกิดเหตุกราดยิง: ศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายไทยและสหรัฐอเมริกา

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์และพัฒนากลไกทางกฎหมายในระบบการแจ้งเตือนภัยเมื่อเกิดเหตุกราดยิงในประเทศไทย โดยศึกษาเปรียบเทียบกับกฎหมายและระบบแจ้งเตือนภัยของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่มีการพัฒนาและบูรณาการระบบแจ้งเตือนภัยอย่างมีประสิทธิภาพ             โดยเน้นศึกษากฎหมาย ระบบ และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอแนวทางในการปรับใช้กับประเทศไทย

จากการศึกษาพบว่า ประเทศไทยยังไม่มีระบบการแจ้งเตือนภัยที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับเหตุกราดยิง ซึ่งแตกต่างจากสหรัฐอเมริกาที่มีระบบการแจ้งเตือนภัยที่หลากหลาย เช่น Emergency Alert System (EAS) และ Wireless Emergency Alerts (WEA) ซึ่งสามารถแจ้งเตือนภัย    ผ่านโทรทัศน์ วิทยุ และโทรศัพท์มือถือได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกายังได้พัฒนาระบบ Integrated Public Alert & Warning System (IPAWS) ซึ่งเป็นระบบแจ้งเตือนภัยระดับชาติที่เชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐหลายแห่งเข้าด้วยกัน เพื่อให้การแจ้งเตือนภัยมีความเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งนี้ ร่างกฎหมาย Active Shooter Alert Act of 2022 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐอเมริกามีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างระบบแจ้งเตือนภัยสำหรับเหตุกราดยิงโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนากฎหมายของประเทศไทย โดยบทบัญญัติเหล่านี้สามารถนำมาปรับใช้เพื่อสร้างระบบ    การแจ้งเตือนภัยที่เหมาะสมกับบริบทของสังคมไทยได้ เช่น การบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ การใช้เทคโนโลยีเพื่อแจ้งเตือนเหตุกราดยิงให้ประชาชนทราบโดยเร็ว และการกำหนดแนวทางปฏิบัติ ที่ชัดเจนในการแจ้งเตือนภัย

ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า การพัฒนากฎหมายเกี่ยวกับระบบแจ้งเตือนภัยเมื่อเกิดเหตุกราดยิง          ในประเทศไทย ควรมีการกำหนดแนวทางทางกฎหมายที่ชัดเจนและครอบคลุม โดยอาศัยแบบอย่างจากสหรัฐอเมริกาและปรับใช้ให้เหมาะสมกับโครงสร้างทางกฎหมายและสังคมของไทย เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลแจ้งเตือนอย่างรวดเร็ว ลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิต และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา          ความปลอดภัยสาธารณะ