การประยุกต์ใช้หลัก Rebus Sic Stantibus ในกฎหมายไทย เพื่อบรรเทาภาระหนี้ของคู่สัญญาในวิกฤตการณ์อันไม่คาดคิด
คำสำคัญ:
หลักการชำระหนี้ต้องอยู่ในความคาดหมายของคู่สัญญาในขณะเข้าทำสัญญา, หลักการเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป สัญญาไม่ต้องเป็นสัญญา, วิกฤตการณ์บทคัดย่อ
บทความทางวิชาการนี้เป็นการศึกษาภายใต้หลัก “เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป สัญญาไม่ต้องเป็นสัญญา” (Rebus Sic Stantibus) อันเป็นหลักการที่มุ่งให้ความคุ้มครอง แก่คู่สัญญาในกรณีที่เกิดเหตุการณ์
ไม่คาดคิด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติเพื่อชำระหนี้ตามสัญญาอย่างรุนแรง โดยแม้หนี้ในสัญญาจะยังสามารถชำระได้ แต่กลับกลายเป็นการสร้างภาระหนักหน่วงที่เกินกว่าที่คู่สัญญาจะได้คาดการณ์ไว้
ในเบื้องต้น ปกติของการทำสัญญาที่คู่สัญญาต้องมีความประสงค์ต้องตรงกันทั้งผู้เสนอและผู้สนอง
พร้อมกับการพิจารณาถึงปัจจัยความถูกต้องทางกฎหมายและสถานการณ์ ต่าง ๆ ทั้งในปัจจุบันไปจนถึงอนาคต หากทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามที่คาดหวัง คู่สัญญาจึงยอมรับพันธะตามกฎหมายและตกลงทำสัญญาดังกล่าวไว้ อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เช่น วิกฤตเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์ที่
ไม่สามารถคาดการณ์ได้ตั้งแต่แรก อาจทำให้การปฏิบัติตามสัญญากลายเป็นภาระที่เกินความเหมาะสมแก่ผู้ที่ต้องชำระหนี้ตามสัญญาได้
ตัวอย่างของเหตุการณ์ที่ส่งผลอย่างร้ายแรงจนกระทบต่อผู้เข้าทำสัญญา เช่น ผลกระทบจากวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจตามประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) และ ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) หรือวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในเอเชียปี 2540 (วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง) หรือการระบาดของโควิด-19 ซึ่งไม่เพียงสร้างความเสียหาย ทางเศรษฐกิจ แต่ยังส่งผลกระทบต่อภาคส่วนอื่น ๆ รวมทั้ง
การปฏิบัติตามสัญญาของคู่สัญญาในเหตุการณ์นี้ก็ด้วย เหตุการณ์เหล่านี้เองจึงสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็น
ในการนำหลัก Rebus Sic Stantibus มาปรับใช้เพื่อให้สัญญาสอดคล้องกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ด้วยเหตุนี้เองจึงควรนำหลักการดังกล่าวมาปรับใช้กับระบบกฎหมายไทย ไม่ว่าจะ ในรูปแบบของ
การบัญญัติให้ชัดเจนในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือการ ปรับเปลี่ยนแนวทางในการทำสัญญา
เพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้เข้าทำสัญญา ซึ่งมีแนวทางจากต่างประเทศ เช่น สหพันธรัฐเยอรมณี สาธารณรัฐ-ฝรั่งเศส หรือสหราชอาณาจักร
เอกสารอ้างอิง
กิตติศักดิ์ ปรกติ. (ม.ป.ป.). หลักสุจริตและเหตุเหนือความคาดหมายในการชำระหนี้. สืบค้นจาก https://www.law.tu.ac.th/wpcontent/uploads/2024/01/BonaFide-_-Supervening-Events.pdf
ธนาคารแห่งประเทศไทย. (2560). ถอด บทเรียนวิกฤตต้มยำกุ้ง. สืบค้นมาจาก https://www.bot.or.th/th/ourroles/special-measures/Tom-Yum-Kung-lesson.html
นิรัชรา พงศ์อาจารย์. (2653). การนำหลักฎหมายทั่วไปมาพิจารณาคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทาง ปกครอง: ศึกษากรณีหลักสุจริตในสัญญาสัมปทานและสัญญาจัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภค, 34, 20.
พระครูวินัยธรเอก ชินวํโส. (2564). ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมีผลผูกพันตามหลักสัญญาต้องเป็น สัญญา. วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์, 70, 70-71
ศนันท์กรณ์ โสตถิพันธุ์. (2567). รวมหลักกฎหมายแพ่ง. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์วิญญูชน.
ส่วนนิติการมหาวิทยาลยั วลัยลักษณ์. (ม.ป.ป.). นิติกรรมและสัญญา สืบค้นจาก https://dla.wu.ac.th/th/archives/3585
อนงค์ สมบุญเจริญ. (2549). ปัญหาการเปลี่ยนแปลงไปซึ่งมูลเหตุในสัญญา. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ปทุมธานี.
Atty. Sema Dar. (10 December 2020). IMPOSSIBILITY OF THE PERFORMANCE IN ENGLISH COMMON LAW. Retrieved from https://ozay.av.tr/publication/impossibility-ofthe-performance-in-english-common-law
Federal Office of Justice. (N.D.). German Civil Code. Retrieved from https://www.gesetze-im-internet.de/englisch_bgb/englisch_bgb.html
InfoCuria Case-law. (N.D.). Racke v Hauptzollamt Mainz. Retrieved from https://curia.europa.eu/juris/liste.jsf?language=en&jur=C%2CT%2CF&num=C162%2F96&td=ALL
Morgan James. (March 2020). Tips for implementing article 1195 of the Civil Code. Retrieved from https://cabinet-arst.com/en/publications/contracts/covid19-article-1195-unforeseen/