การรับรู้ประโยชน์และความง่ายในการใช้งานที่ส่งผลต่อความตั้งใจ ในการใช้งานแอปพลิเคชันการติดตามหลังเข้ารับการรักษาผู้ป่วยนอกโรคเบาหวานในโรงพยาบาลวิภารามปากเกร็ด
คำสำคัญ:
การรับรู้ประโยชน์, ความตั้งใจ, แอปพลิเคชัน, โรงพยาบาลวิภารามปากเกร็ดบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปริมาณนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ปัจจัยส่วนบุคคลที่ตั้งใจในการใช้งาน
แอปพลิเคชันติดตามหลังรับการรักษาผู้ป่วยนอกโรคเบาหวาน 2) ระดับความคิดเห็นการรับรู้ประโยชน์การรับรู้ความง่ายต่อการใช้งาน และความตั้งใจในการใช้งานแอปพลิเคชันติดตามหลังเข้ารับการรักษาผู้ป่วยนอกโรคเบาหวาน และ 3) การรับรู้ประโยชน์ และความง่ายในการใช้งานที่ส่งผลต่อความตั้งใจในการใช้งานแอปพลิเคชันการติดตามหลังเข้ารับการรักษาผู้ป่วยนอกโรคเบาหวานในโรงพยาบาลวิภารามปากเกร็ด งานวิจัยนี้มีกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 350 คน ใช้วิธีเก็บข้อมูลแบบสะดวก สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้การวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ
ผลการวิจัย พบว่า 1) ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความตั้งใจในการใช้แอปพลิเคชันการติดตามหลัง
เข้ารับการรักษาผู้ป่วยนอกโรคเบาหวาน เป็นเพศหญิง กลุ่มอายุต่ำกว่า 50 ปี มีระดับการศึกษาปริญญาตรี และมีรายได้ต่อเดือน 10,001-20,000 บาท 2) ระดับความคิดเห็นการรับรู้ประโยชน์ การรับรู้ความง่ายต่อการใช้งาน และความตั้งใจในการใช้งานแอปพลิเคชัน ทั้งหมดอยู่ในระดับมาก และ 3) การรับรู้ประโยชน์ ได้แก่ ด้านความสะดวกสบาย ด้านความประหยัดเวลา และด้านความรู้ ส่วนปัจจัยด้านความง่ายในการใช้งาน ได้แก่ การใช้แอปพลิเคชันง่ายไม่มีความซับซ้อน และการใช้แอปพลิเคชันไม่ต้องใช้ความพยายามมาก ที่ส่งผลต่อความตั้งใจในการใช้งานแอปพลิเคชันการติดตามหลังเข้ารับการรักษาผู้ป่วยนอกโรคเบาหวานในโรงพยาบาลวิภารามปากเกร็ด อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ข้อมูลงานวิจัยนี้นำไปเป็นแนวทางการพัฒนาแอปพลิเคชันติดตามหลังเข้ารับการรักษาของผู้ป่วยนอกให้เหมาะสมกับช่วงอายุของผู้ใช้งาน
เอกสารอ้างอิง
กัลยา วานิชย์บัญชา. (2564). สถิติสำหรับงานวิจัย : หลักการเลือกใช้เทคนิคทางสถิติในงานวิจัยพร้อมทั้งอธิบายผลลัพธ์ที่ได้จาก SPSS (พิมพ์ครั้งที่ 13) .กรุงเทพฯ: สามลดา.
ทรงวุฒิ สารจันทึก และลือรัตน์ อนุรัตน์พานิช. (2022). ผลลัพธ์ทางคลินิกการติดตามการใช้ยารักษาในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่น. วารสารวิจัยและพัฒนาด้านสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, 8(1), 38-48.
นฤมล ยีมะล. (2560). การรับรู้ความง่ายต่อการใช้งาน การรับรู้ประโยชน์ และการสื่อสารแบบปากต่อปากผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-word of Mouth) ที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจใช้บริการแอปพลิเคชันชมภาพยนตร์ และซีรีส์ของผู้บริโภคกลุ่ม Gen Y ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร. (การค้นคว้าอิสระบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
ปิยพัชร์ ภูศิริ, สุดาวรรณ สมใจ, & กำพล ศรีวัฒนกุล. (2562). การรับรู้ประโยชน์ การรับรู้ความเสี่ยง การรับรู้การใช้งานง่าย และทัศนคติที่มีผลต่อการยอมรับของผู้บริโภคในการนำเทคโนโลยีเซลล์ต้นกำเนิดมาใช้ในศาสตร์ชะลอวัย. วารสารสมาคมนักวิจัย, 24(3), 57-73.
พณีพรรณ สมบัติ. (2564). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจในการใช้งานนวัตกรรมบริการแอปพลิเคชันหมอพร้อม ในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 14(1), 142-159.
พรเทพ ด่านน้อย, อุบลรัตน์ ศิริสุขโภคา, & ไพศาล สิมาเลาเต่า. (2562). การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันเพื่อให้บริการผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล. (วิทยานิพนธ์วิทยาการคอมพิวเตอร์). มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
วรานลินรัตน์ โพธิพัฒน์ (2567). การยอมรับเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการระบบแพทย์ทางไกลของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง: กรณีศึกษาโรงพยาบาลมะขาม จังหวัดจันทบุรี. Burapha University. Retrieved from http://ir.buu.ac.th/dspace/handle/1513/1297
วิภาพร พันธุ์วิชัย, & อลิสรา วงศ์สุทธิเลิศ. (2563). แอปพลิเคชันทางมือถือสำหรับการให้ความรู้และการดูแลรักษาโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ. คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง. (2567). นโยบายของกระทรวงสาธารณสุขสู่การปฏิบัติเพื่อประชาชนมีสุขภาพดี. สืบค้นจาก https://atg-h.moph.go.th
Davis, F. D. (1989). Perceived usefulness, perceived ease of use, and user acceptance of information technology. MIS Quarterly, 13(3), 1319–340.
Harakeh, Z., Van Keulen, H., Hogenelst, K., Otten, W., De Hoogh, I., & Van Empelen, P. (2022). Predictors of the acceptance of an electronic coach targeting self-management of patients with type 2 diabetes: Web-based survey. JMIR Formative Research, 6(8), e34737. https://doi.org/10.2196/34737
Holden, R. J., & Karsh, B.-T. (2010). The Technology Acceptance Model: Its past and its future in health care. Journal of Biomedical Informatics, 43(1), 159–172.
Mohamed, A. H., Al-Momani, A. M., & Khader, A. T. (2011). A technology acceptance analysis for m-health applications: The case of Jordan. International Journal of Medical Informatics, 80(12), 831-840.
Venkatesh, V., & Bala, H. (2008). Technology Acceptance Model 3 and a research agenda on interventions. Decision Sciences, 39(2), 273–315.
Venkatesh, V., & Davis, F. D. (2000). A theoretical extension of the technology acceptance model: four longitudinal field studies. Management Science, 46(2), 186–204. https://doi.org/10.1287/mnsc.46.2.186.11926
Venkatesh, V., Morris, M. G., Davis, G. B., & Davis, F. D. (2003). User acceptance of information technology: toward a unified view. MIS Quarterly, 27(3), 425–478. https://doi.org/10.2307/30036540
Yamane, Taro. (1973). Statistics: An Introductory Analysis (2nd ed.). New York: Harper. and Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.


