นวัตกรรมระบบการจัดการห่วงโซ่มูลค่า “กล้าแก้จน” จังหวัดสุรินทร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ยกระดับทุนการดำรงชีพของครัวเรือนยากจนให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการจัดการเพาะพันธุ์ไม้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยกระดับปฏิบัติการแก้จนระดับอำเภอให้ครอบคลุมคนจนเป้าหมายจากการวิเคราะห์ฐานทุนดำรงชีพในจังหวัดสุรินทร์ (2) พัฒนาโมเดลแก้จน ด้วยนวัตกรรมระบบการจัดการห่วงโซ่มูลค่า “กล้าแก้จน” ระดับจังหวัดสุรินทร์ที่เหมาะสมกับศักยภาพของคนจนเป้าหมายและสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ และ (3) พัฒนาอาชีพและยกระดับรายได้ครัวเรือนยากจนเข้าสู่ห่วงโซ่การผลิต และสร้างโอกาสในการยกระดับฐานะทางสังคมของครัวเรือนยากจนอย่างเป็นรูปธรรมในจังหวัดสุรินทร์ ตามกรอบแนวคิดการดำรงชีพอย่างยั่งยืน โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยและพัฒนา กลุ่มคนจนเป้าหมาย ได้แก่ ตำบลตาเมียง ตำบลบักได ตำบลจีกแดก และตำบลโคกกลาง อำเภอพนมดงรัก ตำบลตรวจ อำเภอศรีณรงค์ และตำบลเมืองบัว อำเภอชุมพลบุรี
ผลการวิจัย พบว่า (1) ครัวเรือนยากจนได้รับการยกระดับทุนการดำรงชีพ ด้านทุนมนุษย์และทุนเศรษฐกิจ โดยอาศัยทุนทางธรรมชาติ ทุนทางกายภาพ และทุนทางสังคมที่มีของชุมชนมีครัวเรือนเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 682 ครัวเรือน ใน 6 ตำบล โดยกลุ่มวิสาหกิจเพาะพันธุ์ไม้หนองคันนา ตำบล ตาเมียง อำเภอพนมดงรัก ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เพิ่มขึ้น 2 กลุ่ม ในพื้นที่ตำบลตาเมียง และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตผ่านเทคโนโลยีที่เรียบง่าย เช่น ระบบน้ำโซล่าเซลล์ การใช้เทคโนโลยีการเพาะเมล็ดพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และเทคโนโลยีการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ด้วยสารเคลือบเมล็ดที่ผสมบอระเพ็ดและน้ำส้มควันไม้ ซึ่งการจัดการเมล็ดพันธุ์ยกระดับรายได้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 20 จำนวน 21 ครัวเรือน (2) นวัตกรรมระบบการจัดการห่วงโซ่มูลค่า “กล้าแก้จน” ระดับจังหวัดสุรินทร์ ที่เหมาะสมกับศักยภาพของคนจนเป้าหมายและสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ การพัฒนาทักษะอาชีพด้านการเพาะกล้าไม้ป่า สมุนไพร พืชผักสวนครัวและการใส่เชื้อเห็ดในกล้ายางนา สามารถยกระดับรายได้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 20 จำนวน 438 ครัวเรือน โดยครัวเรือนมีรายได้เพิ่มขึ้น 13,200 บาทต่อปี และ (3) โครงการได้พัฒนาอาชีพและยกระดับรายได้ครัวเรือนยากจนเข้าสู่ห่วงโซ่การผลิตและสร้างโอกาสในการยกระดับฐานะทางสังคมของครัวเรือนยากจนอย่างเป็นรูปธรรมในจังหวัดสุรินทร์ โดยการพัฒนากลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพาะพันธุ์ไม้หนองคันนา กลุ่มกล้าแก้จนคนตาเมียง กลุ่มกล้าแก้จนคนมีบุญ เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยสร้างความร่วมมือในระดับพื้นที่และส่งเสริมให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเอง ทำให้เกิดการแบ่งปันความรู้ ทรัพยากร และการช่วยเหลือกัน รวมถึงการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ในชุมชน การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์และการฝึกอบรมทักษะในชุมชนและเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการในพื้นที่ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างกันเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการผลิตและเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกกลุ่ม ซึ่งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน ผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุนของโครงการ เท่ากับ 5.70 โดยเกิดผลกระทบและการเปลี่ยนแปลง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. (2565, 10 กุมภาพันธ์). พาส่องเส้นทางขจัดความจนอย่างตรงจุด ลดความเหลื่อมล้ำควบคู่การพัฒนาเชิงพื้นที่. https://www.nxpo.or.th/th/11870/
กิตติ สัจจาวัฒนา. (2562). เอกสารประกอบการบรรยายเรื่อง งานวิจัยเพื่อพัฒนาพื้นที่: หลักการ แนวคิด และทิศทางการสนับสนุนวิจัยเพื่อพัฒนาพื้นที่ของประเทศไทย (เอกสารประกอบการบรรยาย). สำนักงานบริหารการวิจัย นวัตกรรมและการสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง. (2550). การประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
ชาตรี ศิริสวัสดิ์. (2553). ศักยภาพในการพึ่งตนเองของคนจนในเชิงบูรณาการ. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 4(2), 39–45.
ทิวากร เหล่าลือชา, ศศิพงษา จันทรสาขา, ปิยะนุช ทวีสุข, บุรฉัตร จันทร์แดง, วนิดา สังคะลุน, สุนันทา พิลาวุธ, สุพรรณี ทองน้อย, จักรกฤษณ์ ภูมิพรม, ธนวัฒน์ผิวขำ, มยุรา คำปาน และ ดารินี บุตรดีวงศ์. (2566). การพัฒนาพื้นที่เชิงบูรณาการแบบร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ: กรณีศึกษาพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ระยะที่ 3. วารสาร มจร. อุบลปริทรรศน์, 8(2), 1170–1183.
นภาพรรณ พัฒนฉัตรชัย และคณะ. (2565). การยกระดับระบบบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนจังหวัดสุรินทร์สู่การดำรงชีพอย่างยั่งยืน: รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์.
นิลวดี พรหมพักพิง, บัวพันธ์ พรหมพักพิง, มนต์ชัย ผ่องศิริ, แพรเพ็ญ โสมาบุตร, และ ภัทรพร วีระนาคินทร์. (2562). ทรัพยากรธรรมชาติกับวิถียังชีพของครัวเรือนเกษตรกรรายย่อยในชนบทอีสาน. วารสารสุโขทัยธรรมาธิราช, 32(2), 123–144.
นิศานาถ แก้ววินัด และคณะ. (2565). การพัฒนาโมเดลแก้จนจังหวัดสุรินทร์ด้วยแนวคิด “ธรรมรวมใจเพื่อผู้ยากไร้”: รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์.
ประอรรัตน์ รอดบำรุงโชติสิน และ ธนัสถา โรจนตระกูล. (2566). บทบาทของทีมพี่เลี้ยงในการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน. Journal of Modern Learning Development, 8(7), 398–409.
ไพโรจน์ ภัทรนรากุล. (2545). ยุทธศาสตร์การพัฒนาชาติตามแนวทางชุมชนพึ่งตนเองแบบยั่งยืน: กรอบนโยบายและตัวแบบการจัดการ. วารสารพัฒนบริหารศาสตร์, 42(3), 1–37.
ลดาวัลย์ ปัญตะยัง และคณะ. (2567). นวัตกรรมระบบการจัดการห่วงโซ่มูลค่า “กล้าแก้จน” จังหวัดสุรินทร์: รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์.
ศศิวิมล คำเมือง. (2567). ประสิทธิผลการปฏิบัติตามนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจนไปสู่การปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัดพิษณุโลก. Journal of Roi Kaensarn Academi, 9(7), 364–379.
ศิวัช ศรีโภคางกุล และ ยุทธศาสตร์ หน่อแก้ว. (2553). ถอดบทเรียนการมีส่วนร่วมของประชาชนในโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 4(2), 45–52.
หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.). (2565, 5 มีนาคม). ระบบข้อมูลครัวเรือนยากจนระดับจังหวัด (Practical Poverty Platform–PPP Connext). http://www.pppconnext.com/ppp/frontend/web/index.php
หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.). (2566). สู้ชนะความจน: บนฐานพลังความรู้พลังภาคี. บริษัท ดีไซน์ ดีไอ จำกัด.
หลี่ ซิงหง, รัดเกล้า เปรมประสิทธิ์ , ฟ้ารุ่ง มีอุดร, และ นพรัตน์ รัตนประทุม. (2565). ถอดบทเรียนความสำเร็จของนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจนในชนบทของจีน. วารสารเศรษฐศาสตร์และกลยุทธ์การจัดการ, 9(1), 230–248.
หลี่ ซิงหง, รัดเกล้า เปรมประสิทธิ์ , ฟ้ารุ่ง มีอุดร, และ นพรัตน์ รัตนประทุม. (2567). การดำรงชีพอย่างยั่งยืนของเกษตรกรที่หลุดพ้นจากความยากจน: กรณีศึกษามณฑลยูนนาน ประเทศจีน. วารสารชุมชนวิจัยและพัฒนาสังคม, 18(2), 212–231.
UNIDO. (2011). Pro-poor value chain development: 25 guiding questions for designing and implementing agroindustry projects. United Nations Industrial Development Organization.