https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JISLD/issue/feed วารสารสหวิทยาการศึกษาและพัฒนาท้องถิ่น 2025-08-29T23:29:26+07:00 พระครูปริยัติปัญญาโสภณ, ผศ.ดร. jisld1970@gmail.com Open Journal Systems <p> <strong>ขอบเขตของวารสาร </strong></p> <p><strong> </strong>รับตีพิมพ์และเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ ได้แก่ บทความวิจัย บทความวิชาการ บทความปริทรรศน์หรือบทวิจารณ์วรรณกรรม บทวิจารณ์หนังสือ ในสาขาที่เกี่ยวกับด้านศาสนา วัฒนธรรมประเพณี การศึกษา สังคมศาสตร์ มนุษย์ศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เศรษฐกิจชุมชน การพัฒนาท้องถิ่น บทความที่ได้รับตีพิมพ์จะต้องได้ผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) จำนวนไม่น้อยกว่า 3 ท่าน ที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง ในลักษณะปกปิดรายชื่อ และได้รับความเห็นชอบจากกองบรรณาธิการก่อนการตีพิมพ์เผยแพร่</p> https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JISLD/article/view/1999 การประยุกต์หลักพละธรรมเพื่อการบริหารสู่สังคมวิถีพุทธ 2025-08-29T19:51:01+07:00 พระมหาเชิดศักดิ์ สุชีโว (พันธ์เสน) Cherdsak593@gmail.com <p> หลักธรรมในพุทธศาสนามีความสำคัญอย่างมากในการสร้างสังคมที่มีความสงบและความเจริญรุ่งเรือง หลักพละธรรม4ประการเป็นเครื่องมือสำคัญของผู้บริหาร โดยเฉพาะในการบริหารตน คน และงาน ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องผู้บริหารควรนำหลักพละธรรมมาประยุกต์ใช้ในการบริหารตน และคน ให้มีคุณธรรม จริยธรรมเสียก่อน เช่น สร้างความเท่าเทียม ความเป็นธรรมของผู้คนในสังคม และความเข้าใจในสภาวะของผู้อื่น การพัฒนาคุณธรรมและจิตใจของบุคคลในสังคมจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อทุกคน</p> <p> การบริหารงานด้วยหลักพละธรรมนั้นเน้นการพัฒนาทักษะในการแก้ไขปัญหา โดยการใช้ กำลังแห่งปัญญา กำลังแห่งความเพียร กำลังแห่งความสื่อสัตย์สุจริต และกำลังแห่งการสงเคราะห์กัน ทำให้เกิดเสถียรภาทางสังคมและสังคมจะถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องผ่านการประยุกต์หลักพละธรรม เพื่อการบริหารโดยการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมในจิตใจที่ดีให้กับบุคลากรและประชากรทั้งหมด ทั้งจะเป็นการพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรบุคคลอย่างสำคัญ</p> <p> การยึดพละธรรมเพื่อการบริหารสู่สังคมวิธีพุทธ จะช่วยให้สังคม สร้างค่านิยมโดยยืดเอาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาใช้ในการบริหารงานของผู้นำองค์กร อันจะสามรถนำประโยชน์สุข ความสงบและความเจริญรุ่งเรืองแก่ประชาชนอย่างยั่งยืน</p> 2025-08-29T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการศึกษาและพัฒนาท้องถิ่น https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JISLD/article/view/1758 การเสริมสร้างภาวะผู้นำตามหลักพรหมวิหารธรรมของผู้บริหารองค์การ 2025-06-25T12:58:37+07:00 พุธนิชัย กำจัดภัย phunnichai1971@gmail.com <p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเสริมสร้างภาวะผู้นำตามหลักพรหมวิหารธรรมของผู้บริหารองค์การ การเสริมสร้างภาวะผู้นำตามหลักพรหมวิหารธรรม โดยการใช้หลักพรหมวิหาร 4 จะประกอบด้วยเมตตา (ความรักและความปรารถนาดีต่อผู้อื่น) กรุณา (ความเห็นอกเห็นใจและการช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์) มุทิตา (ความยินดีในความสำเร็จของผู้อื่น) อุเบกขา (ความเป็นกลางและไม่ยึดติดกับผลกระทบต่าง ๆ) มาช่วยในการเสริมสร้างภาวะผู้นำจะช่วยให้ผู้บริหารสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร และพัฒนาความไว้วางใจระหว่างผู้นำและทีมงาน การบริหารที่มีคุณธรรมจะสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการทำงาน ส่งผลให้ทีมงานมีความสุขและองค์กรเติบโตไปอย่างยั่งยืน การเสริมสร้างภาวะผู้นำตามหลักพรหมวิหารธรรมของผู้บริหารองค์การโดยเน้นการบริหารรวมทั้งการเสริมสร้างคุณลักษณะภาวะผู้นำที่พึ่งประสงค์แนวพุทธธรรมเพื่อนำข้อมูลที่ได้เป็นแนวทางให้ผู้บริหารได้พัฒนาปรับปรุง บทบาทผู้นำ และวางตัวเป็นแบบอย่างที่ดี</p> 2025-08-28T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการศึกษาและพัฒนาท้องถิ่น https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JISLD/article/view/1918 ธรรมาภิบาลในอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย: แนวทางสู่ความยั่งยืน 2025-08-22T15:21:00+07:00 ปรินทร ศิริเอี้ยวพิกูล parinthorn@hitechthai.com <p>บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอความเชื่อมโยงระหว่างปัญหาต่างๆ ที่อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยกำลังเผชิญอยู่ อุตสาหกรรมนี้กำลังเจอกับปัญหาธรรมาภิบาลที่อ่อนแอมานาน ทำให้เกิดการทุจริต ขาดความโปร่งใส และการบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นผล เพื่อให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตอย่างยั่งยืน เราจึงควรนำหลักการ ESG มาปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของประเทศไทย โดยระบุหัวข้อหลักในบทความ ได้แก่ ธรรมาภิบาลและ ESG ในบริบทไทย ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในทางปฏิบัติ เครื่องมือและแนวทางทางปฏิบัติที่สนับสนุนธรรมาภิบาล การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย และกรณีศึกษาแนวทางที่ยั่งยืน องค์ความรู้จากบทความนี้จะช่วยสร้างแนวทางปฏิบัติเพื่อพัฒนาระบบธรรมาภิบาลในอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทย ทั้งสำหรับผู้ประกอบการ หน่วยงานกำกับดูแล และนักวิชาการ เป้าหมายคือการสร้างอุตสาหกรรมที่โปร่งใสและมีความรับผิดชอบ ซึ่งจะนำไปสู่ความยั่งยืนในระยะยาว</p> 2025-08-28T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการศึกษาและพัฒนาท้องถิ่น https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JISLD/article/view/1750 การจัดการพนักงานที่อยากไปแต่ไปไม่ได้ในองค์กรท้องถิ่น: การประยุกต์ใช้ทฤษฎีความสามารถ-แรงจูงใจ-โอกาส 2025-06-25T12:59:11+07:00 ฐณัฏฐ์ อัฑฒ์ทิวัตถ์ธนา aump.thanat@gmail.com <p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอกรอบแนวคิดเชิงบูรณาการสำหรับการจัดการปัญหา "พนักงานที่อยากไปแต่ไปไม่ได้" หรือ "ความผูกพันแบบพิษ" ในองค์กรท้องถิ่น โดยการประยุกต์ใช้ทฤษฎีความสามารถ-แรงจูงใจ-โอกาส (AMO) ร่วมกับทฤษฎีความผูกพันองค์กรสามองค์ประกอบของเมเยอร์และอัลเลน การศึกษานี้มุ่งเน้นการวิเคราะห์ปรากฏการณ์ของพนักงานที่มีความผูกพันต่อเนื่อง (Continuance Commitment) สูงแต่ขาดความผูกพันทางอารมณ์ (Affective Commitment) ซึ่งส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพการบริการประชาชน บทความนำเสนอการทบทวนวรรณกรรมเชิงบูรณาการที่แสดงให้เห็นว่าความผูกพันแบบพิษเกิดจากการที่พนักงานรู้สึกติดกับดักในองค์กรเนื่องจากปัจจัยภายนอก เช่น ความมั่นคงของงาน สวัสดิการ หรือข้อจำกัดในการหางานใหม่ มากกว่าความรักใคร่ต่อองค์กร ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าพนักงานกลุ่มนี้มักมีพฤติกรรมการทำงานที่ลดลง ขาดความคิดสร้างสรรค์ และไม่เต็มใจทำงานเกินหน้าที่ กรอบแนวคิดที่นำเสนอใช้ทฤษฎี AMO เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหา โดยเสนอกลยุทธ์การเสริมสร้างความสามารถ (Ability-enhancing practices) การสร้างแรงจูงใจ (Motivation-enhancing practices) และการเปิดโอกาส (Opportunity-enhancing practices) เพื่อเปลี่ยนความผูกพันต่อเนื่องให้เป็นความผูกพันทางอารมณ์ การประยุกต์ใช้กรอบแนวคิดนี้ในองค์กรท้องถิ่นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการสาธารณะ ลดต้นทุนการหมุนเวียนพนักงาน และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นบวก ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืนในระยะยาว</p> 2025-08-28T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการศึกษาและพัฒนาท้องถิ่น https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JISLD/article/view/1711 การบริหารจัดการสโมสรฟุตซอลแบงค็อก บีทีเอส เอฟซี 2025-06-24T18:11:11+07:00 ธาดา บัวทิม Tadabuatim@gmail.com รังสรรค์ ประเสริฐศรี t.bouthim7@gmail.com อรพิน ปิยะสกุลเกียรติ t.bouthim7@gmail.com <p> การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการบริหารสโมสรฟุตซอลแบงค็อก บีทีเอส เอฟซี และเพื่อระบุปัญหาและอุปสรรคที่ส่งผลต่อการบริหารงานของสโมสร การวิจัยนี้ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปริมาณ โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 75 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหาร ผู้ฝึกสอน และนักกีฬาที่อยู่ในสังกัดสโมสรฟุตซอลดังกล่าว ข้อมูลถูกรวบรวมโดยใช้แบบสอบถามที่มีโครงสร้างชัดเจน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน</p> <p>ผลการวิจัยพบว่าการบริหารสโมสรฟุตซอลแบงค็อก บีทีเอส เอฟซี โดยรวมอยู่ในระดับสูง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ค่าเฉลี่ยจากสูงไปต่ำได้ดังนี้: (1) กระบวนการบริหารจัดการสโมสร, (2) งบประมาณ, (3) การตลาด สิทธิประโยชน์ ประชาสัมพันธ์ และแฟนคลับ, และ (4) การพัฒนานักกีฬา นอกจากนี้ พบปัญหาและอุปสรรคหลายประการ ได้แก่ รุ่นน้องมีความเกรงใจรุ่นพี่เกินไป ทำให้ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ในด้านการตลาด สิทธิประโยชน์ ประชาสัมพันธ์ และแฟนคลับ ยังขาดผู้สนับสนุนเพื่อสนับสนุนการเติบโตในอาชีพของนักกีฬา รวมถึงโอกาสในการไปแข่งขันต่างประเทศ การพัฒนานักกีฬายังไม่ครอบคลุมด้านร่างกาย เช่น โภชนาการ และวินัยในการเข้าฟิตเนสอย่างสม่ำเสมอ ค่าตอบแทนยังไม่เหมาะสมกับนักกีฬาที่มีประสบการณ์สูง และควรมีเงินรางวัลสำหรับการชนะเลิศในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์</p> <p>ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าการบริหารสโมสรอย่างมีประสิทธิภาพควรจัดสรรงานให้เหมาะสมกับความสามารถของบุคลากร จัดการค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์อย่างเป็นธรรม ส่งเสริมการพัฒนานักกีฬาอย่างครบวงจร และเสริมสร้างความร่วมมือกับผู้สนับสนุนเพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตทางอาชีพของนักกีฬา</p> 2025-08-28T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการศึกษาและพัฒนาท้องถิ่น