วารสารบริหารธุรกิจราชมงคลสุวรรณภูมิ

ปัจจัยแรงจูงใจและปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ ใช้บริการร้านอาหารท้องถิ่นในจังหวัดสุพรรณบุรี

Thu, 28 Aug 2025 00:00:00 +0700

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยแรงจูงใจ ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด และการตัดสินใจใช้บริการร้านอาหารท้องถิ่นในจังหวัดสุพรรณบุรี และ 2) เพื่อศึกษาปัจจัยแรงจูงใจและปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการร้านอาหารท้องถิ่นในจังหวัดสุพรรณบุรี กลุ่มตัวอย่างคือผู้ใช้บริการร้านอาหารท้องถิ่นในจังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 400 ราย โดยใช้วิธีการสุ่มแบบบังเอิญ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยแรงจูงใจ ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด และการตัดสินใจใช้บริการร้านอาหารท้องถิ่นในจังหวัดสุพรรณบุรี โดยรวมอยู่ในระดับมาก ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ปัจจัยแรงจูงใจ ได้แก่ แรงจูงใจด้านอารมณ์ และแรงจูงใจด้านเหตุผล ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการร้านอาหารท้องถิ่นในจังหวัดสุพรรณบุรี และปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และด้านการส่งเสริมการตลาด ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการร้านอาหารท้องถิ่นในจังหวัดสุพรรณบุรี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

แนวทางการบริหารทรัพยากรมนุษย์และคุณภาพชีวิตในการทำงาน ของพนักงานบริษัทกลุ่มอิเลคทรอนิกส์ ในนิคมอุตสาหกรรม เขตภาคกลาง

สุธิดา ถนอมวงษ์ — Thu, 28 Aug 2025 00:00:00 +0700

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการบริหารทรัพยากรมนุษย์ของพนักงาน บริษัทกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในนิคมอุตสาหกรรมเขตภาคกลาง 2) ศึกษาคุณภาพชีวิตในการทำงานของพนักงานบริษัทกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในนิคมอุตสาหกรรมเขตภาคกลาง 3) ศึกษาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของพนักงานบริษัทกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในนิคมอุตสาหกรรมเขตภาคกลาง และ 4) ศึกษาแนวทางในการบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงานบริษัทกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในนิคมอุตสาหกรรมเขตภาคกลาง กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ คือ พนักงานบริษัทกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในนิคมอุตสาหกรรมเขตภาคกลาง จำนวน 400 คน และผู้บริหาร จำนวน 15 คน รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ

ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรมนุษย์ในทัศนะของพนักงาน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2) ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตในการทำงานของพนักงานในทัศนะของพนักงาน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก 3) ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของพนักงานบริษัทกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในนิคมอุตสาหกรรมเขตภาคกลาง และ 4) แนวทางในการบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงาน พบว่า สภาพแวดล้อมภายนอกมีส่วนสำคัญที่มีผลต่อการกำหนดคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานบริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วย สภาพเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี เพื่อหาแนวทางการบริหารและการพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงานของพนักงาน และจากการแสดงแนวความคิดของผู้บริหารหลายองค์กรต่างให้ความคิดเห็นในแนวทางเดียวกันว่า บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญในคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งไม่ขัดต่อนโยบายหลักการบริหารงานที่องค์กรแต่ละองค์กรกำหนดไว้ โดยเน้นทั้งคุณภาพของพนักงานและประสิทธิผลของงานที่ได้เป็นสำคัญ

ความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการขององค์การบริหารส่วนตำบลสาลี อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี

ดารินทร์ อู่อรุณ, สวงค์ เศวตวัฒนา — Thu, 28 Aug 2025 00:00:00 +0700

การวิจัยเชิงปริมาณนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ปัจจัยส่วนบุคคล 2) ระดับความพึงพอใจ และ 3) เปรียบเทียบความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการขององค์การบริหารส่วนตำบลสาลี จังหวัดสุพรรณบุรี กลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน ได้มาจากการคำนวณด้วยสูตรของทาโร่ ยามาเน่ และเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ t-test และ One-way ANOVA

ผลการวิจัยพบว่า ความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการโดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่าด้านที่ได้รับความพึงพอใจสูงสุดคือด้านช่องทางการให้บริการ รองลงมาคือด้านกระบวนการ/ขั้นตอนการให้บริการ และด้านเจ้าหน้าที่/บุคลากร ตามลำดับ ส่วนด้านที่ได้รับความพึงพอใจน้อยที่สุดคือด้านสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก ผลการเปรียบเทียบความพึงพอใจจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่าประชาชนที่มีสถานภาพทางครอบครัวและระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีความพึงพอใจต่อการให้บริการแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในขณะที่เพศและรายได้ต่อเดือนไม่มีผลต่อความแตกต่างของความพึงพอใจอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ข้อค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่า อบต.สาลีควรให้ความสำคัญกับการปรับปรุงด้านสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นพิเศษ ควบคู่ไปกับการรักษามาตรฐานด้านช่องทางการสื่อสารและกระบวนการบริการ เพื่อยกระดับความพึงพอใจของประชาชนทุกกลุ่มให้สูงขึ้นอย่างยั่งยืน

ความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการจัดเก็บภาษี ของเทศบาลเมืองลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี

วรรณวิษา ทองมี, จิราภรณ์ ขันทอง — Thu, 28 Aug 2025 00:00:00 +0700

การวิจัยเชิงปริมาณนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการจัดเก็บภาษี และ 2) วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการให้บริการข้อมูลข่าวสารกับความพึงพอใจดังกล่าวในบริบทของเทศบาลเมืองลาดสวาย ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตปริมณฑลที่มีการขยายตัวสูง การวิจัยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) โดยเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 364 คน ซึ่งได้มาจากการคำนวณด้วยสูตรของทาโร่ ยามาเน่ และเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบตามสะดวก (Convenience Sampling) สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน

ผลการวิจัยพบว่า ความพึงพอใจของประชาชนโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพึงพอใจต่อ ด้านเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ ซึ่งได้รับคะแนนสูงสุด สำหรับปัจจัยด้านการให้บริการข้อมูลข่าวสารมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับสูงกับความพึงพอใจโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการจัดหาข้อมูลให้ครบถ้วนตามความประสงค์ เป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์สูงในระดับร้อยละ 80.90 งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า ในยุคดิจิทัลที่กฎหมายภาษีมีความซับซ้อน ประสิทธิผลของการให้บริการจัดเก็บภาษีไม่สามารถแยกขาดจากคุณภาพของการให้บริการข้อมูลข่าวสารได้อีกต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถของบุคลากรในการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้อง ได้กลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Driver) ที่สำคัญที่สุดในการสร้างความพึงพอใจและความไว้วางใจของประชาชนต่อบริการภาครัฐ

คุณภาพการบริการที่มีผลต่อความพึงพอใจการใช้บริการ รถทัวร์บริษัทแอร์เมืองเลย จำกัด

กมลวิทย์ เดี่ยววาณิชย์, จิราภรณ์ ขันทอง — Thu, 28 Aug 2025 00:00:00 +0700

การวิจัยเชิงปริมาณนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาคุณภาพการบริการของรถทัวบริษัทแอร์เมืองเลย จำกัด 2) ศึกษาความพึงพอใจการใช้บริการรถทัวร์ของบริษัท แอร์เมืองเลย จำกัด และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพการบริการและความพึงพอใจการใช้บริการรถทัวร์ของบริษัท แอร์เมืองเลย จำกัด
กลุ่มตัวอย่างคือผู้ใช้บริการจำนวน 400 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบสะดวก และใช้สูตรของโคชรานในการคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือแบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานด้วยสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน

ผลการวิจัยพบว่า คุณภาพการบริการ 4 ด้าน ได้แก่ การเข้าใจและรู้จักลูกค้า การตอบสนองต่อลูกค้า ความเป็นรูปธรรมของบริการ และการให้ความมั่นใจแก่ลูกค้า ล้วนส่งผลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการวิจัยนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพการบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ ซึ่งจะนำไปสู่ความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืนของบริษัท