https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JBURUS/issue/feed วารสารบริหารธุรกิจราชมงคลสุวรรณภูมิ 2024-12-26T19:10:28+07:00 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภิญญดา รื่นสุข pinyada3443@gmail.com Open Journal Systems <p><strong><img src="https://so14.tci-thaijo.org/public/site/images/nathaphan.m@rmutsb.ac.th/438216933-7514996428564495-1020633586491220758-n.jpg" alt="" width="1108" height="1477" /></strong></p> <p><strong>วารสารบริหารธุรกิจราชมงคลสุวรรณภูมิ</strong></p> <p><a href="https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JBURUS"><strong>https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JBURUS</strong></a></p> <p> </p> <p><strong>เกี่ยวกับวารสาร</strong></p> <p>วารสารบริหารธุรกิจราชมงคลสุวรรณภูมิ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการศึกษาค้นคว้า และเพื่อเผยแพร่บทความวิจัยและบทความวิชาการแก่นักวิจัย นักวิชาการ คณาจารย์ และนักศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา ในศาสตร์ดังนี้</p> <p>การจัดการองค์กรภาครัฐและภาคธุรกิจ การจัดการอุตสาหกรรม การบริหารเชิงกลยุทธ์ การบริหารทรัพยกรมนุษย์ การบริหารการปฏิบัติการ การตลาด การตลาดดิจิทัล เอกชน ด้านการตลาด การบัญชี การเงินและการลงทุน เศรษฐศาสตร์ ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจระหว่างประเทศและการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน การจัดการนวัตกรรมบริการ รวมถึงการวิเคราะห์ปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวม <br />และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง</p> <p> </p> <p><strong>ประเภทของผลงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร</strong></p> <p> <strong>1) บทความพิเศษ (Special Articles)</strong> บทความพิเศษทางวิชาการที่นำเสนอองค์ความรู้ทางวิชาการอย่างเข้มข้น และผ่านการอ่านและพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักวิชาการในวงการวิชาการหรือวิชาชีพ</p> <p> <strong>2) บทความวิชาการ (Academic Article)</strong> เป็นบทความที่เขียนขึ้นในลักษณะวิเคราะห์ วิจารณ์ หรือเสนอแนวคิดใหม่ จากพื้นฐานทางวิชาการที่ได้เรียบเรียงจากผลงานทางวิชาการของตนเองหรือของผู้อื่น หรือเป็นบทความทางวิชาการที่เขียนขึ้นเพื่อเป็นความรู้ที่มีประโยชน์แก่คนทั่วไป</p> <p> <strong>3) บทความวิจัย (Research Article)</strong> เป็นบทความที่มีการค้นคว้าอย่างมีระบบ และมีความมุ่งหมายชัดเจน เพื่อให้ได้ข้อมูลหรือหลักการบางอย่างที่จะนำไปสู่ความก้าวหน้า หรือการนำวิชาการมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ บทความวิจัยมีรูปแบบของการวิจัยตามหลักวิชาการ เช่น มีการตั้งสมมติฐานหรือมีการกำหนดปัญหาที่ชัดเจน สมเหตุ โดยจะต้องระบุวัตถุประสงค์ที่เด่นชัด แน่นอน มีการรวบรวมข้อมูล พิจารณาวิเคราะห์ ตีความ และสรุปผลการวิจัยที่สามารถให้คำตอบหรือบรรลุวัตถุประสงค์</p> <p><strong> 4) บทความปริทรรศน์ (Review Article)</strong> เป็นบทความที่รวบรวมความรู้จากตำรา หนังสือ และวารสารใหม่ หรือจากประสบการณ์ของผู้นิพนธ์มาเรียบเรียงขึ้น</p> <p> </p> <p><strong>กำหนดออกเผยแพร่วารสาร</strong></p> <p> กำหนดเผยแพร่ปีละ 3 ฉบับ </p> <p> ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน</p> <p> ฉบับที่ 2 พฤษภาคม - สิงหาคม</p> <p> ฉบับที่ 3 กันยายน – ธันวาคม</p> <p> </p> <p><strong>กระบวนการพิจารณาบทความจากผู้ทรงคุณวุฒิ</strong></p> <p> วารสารมีกระบวนการประเมินคุณภาพจากผู้ทรงคุณวุฒิก่อนตีพิมพ์ โดยบทความที่ได้รับตีพิมพ์จะต้องได้รับความเห็นชอบจากกองบรรณาธิการก่อนตีพิมพ์ ได้ผ่านการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิกลั่นกรองบทความ (Peer Review) อย่างน้อย 3 ท่าน ที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง ในลักษณะปกปิดรายชื่อ (Double blind Peer Review) โดยรับพิจารณาตีพิมพ์ต้นฉบับของบุคคลทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย ผลงานที่ส่งมาจะต้องไม่เคยเสนอหรือกำลังตีพิมพ์ในวารสารวิชาการใดมาก่อน</p> <p> รวมทั้งผู้เขียนจะต้องคำนึงถึงจริยธรรมการวิจัย ไม่ละเมิดหรือคัดลอดผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง ซึ่งทางวารสารได้กำหนดความซ้ำซ้อนของผลงานด้วยโปรแกรม CopyCat เว็บ Thaijo ในระดับ ไม่เกิน 20%</p> <p> ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารบริหารธุรกิจราชมงคลสุวรรณภูมิ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ</p> <p> </p> <div id="history"> <p><strong>ค่าธรรมเนียมในการตีพิมพ์</strong></p> <p> วารสารนี้ไม่มีค่าธรรมเนียมในการตีพิมพ์ โดยได้รับการสนับสนุนวารสารจาก คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ</p> </div> https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JBURUS/article/view/1121 การศึกษาแนวคิดพฤติกรรมของผู้บริโภคต่อการเลือกใช้ Mobile Application 7-Eleven ในการจ่ายสินค้าแทนการใช้เงินสด 2024-11-23T11:12:26+07:00 ธนากร บุญทูล tanakorn.bt@rmuti.ac.th ธรรณพ ศศิโชติโภคิณ thunnop.sp@rmuti.ac.th รุ่งทิวา ยิ้มเครือทอง rungtiwa.yt@rmuti.ac.th สุรเกียรติ ปริชาตินนท์ surakiat.pa@rmuti.ac.th กมลทิพย์ ปริชาตินนท์ kamonthip.pa@rmuti.ac.th สรชัย สุขพันธ์ sorachai.sp@rmuti.ac.th <p>การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาแนวคิดพฤติกรรมของผู้บริโภคต่อการเลือกใช้ Mobile Application 7-Eleven ในการจ่ายสินค้าแทนการใช้เงินสด ผู้บริโภคมักให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและความปลอดภัยของการใช้แอพพลิเคชันนี้ สื่อสังคมและสถานการณ์เศรษฐกิจมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมผู้บริโภคให้ใช้แอพพลิเคชันนี้ด้วย ผลการศึกษาที่พบว่าผู้บริโภคมักมีระดับความพึงพอใจในการใช้ App 7-Eleven ในการจ่ายสินค้า เนื่องจากความสะดวกสบาย ความปลอดภัย โปรโมชั่น และระบบสะสมคะแนนที่มีในการทำธุรกรรม อีกทั้งยังมีปัจจัยทางสังคมและการส่งเสริมที่เข้ามาเสริมให้ผู้บริโภคใช้ Mobile Application 7-Eleven อย่างแพร่หลายมากขึ้น บทความวิชาการนี้เป็นประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการในการสร้างปัจจัยด้านการรับรู้ประโยชน์ให้แก่ผู้บริโภคได้แก่ ด้านความสะดวก ด้านความปลอดภัย โปรโมชั่น และระบบสะสมคะแนน เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเหมาะสม โดยยึดมุมมองที่ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาสินค้าและบริการในยุคดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตของสรรพสินค้าและบริการในปัจจุบัน</p> 2024-12-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JBURUS/article/view/905 กระบวนการจัดการและแรงจูงใจที่ส่งผลต่อความพึงพอใจ ของ เอเยนซี่ บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด 2024-08-20T17:17:31+07:00 นิธิมา ยืนยง nithima.y@ptu.ac.th สุรชัย วงษ์ชาลี surachai.ba@ptu.ac.th นฤมล ตีระพัฒนเกียรติ naruemon.kai@hotmail.com <p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษากระบวนการจัดการที่มีความสัมพันธ์ต่อความพึงพอใจของตัวแทนจำหน่ายซูเลียน 2) ศึกษาแรงจูงใจที่มีความสัมพันธ์ต่อความพึงพอใจของตัวแทนจำหน่าย<br />ซูเลียน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรโดยการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบ Pearson’s product moment correlation coefficient</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า </p> <p>1) ด้านกระบวนการจัดการ พบว่า การจัดกระบวนการโดยรวมมีความสัมพันธ์ทางบวกกับความพึงพอใจในงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = .74, p &lt; .01) </p> <p>2) และด้านแรงจูงใจในการทำงาน พบว่า แรงจูงใจในการทำงานโดยรวมมีความสัมพันธ์ทางบวกกับความพึงพอใจในงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = .72, p &lt; .01) </p> <p>การวิจัยในครั้งนี้เป็นผลที่ได้เกิดการกระตุ้นให้เอเยนซี่ซูเลียน เกิดความมุ่งมั่น ตั้งใจในการทำงานและเกิดความกระตือรือร้นอย่างเต็มที่ส่งผลให้บรรลุตามเป้าหมายขององค์การ </p> 2024-12-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JBURUS/article/view/1228 ปัจจัยการเป็นสถานศึกษานวัตกรรมโลกยุคใหม่ 2024-12-14T13:23:01+07:00 อินท์ชลิตา ปิติพันธุ์เลิศ kwin55@hotmail.com ธนาธร สระบัว thanathon.sabua@gmail.com <p>บทความ เรื่อง ปัจจัยการเป็นสถานศึกษานวัตกรรมโลกยุคใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นสถานศึกษาแห่งนวัตกรรมในโลกยุคใหม่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาสถานศึกษา รวมถึงให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรในสถานศึกษาได้เห็นความสำคัญของการพัฒนานวัตกรรม ทั้งนวัตกรรมทางด้านการบริหารสถานศึกษาและนวัตกรรมด้านการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีคุณภาพสูงสุด มุ่งเน้นการเป็นองค์กรทางการศึกษาที่มีการสร้างสิ่งใหม่ หรือมีการพัฒนาดัดแปลงสิ่งเดิมทั้งรูปแบบวิธีการทำงาน และการจัดการเรียน การสอน แล้วทำให้การจัดการศึกษาของสถานศึกษามีประสิทธิภาพ ดีขึ้นในโลกยุคใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยการศึกษาข้อมูลจากแนวคิดเกี่ยวกับปัจจัยของการเป็นสถานศึกษาแห่งนวัตกรรม พบว่า การที่สถานศึกษาจะเป็นสถานศึกษา<br />แห่งนวัตกรรมในโลกยุคใหม่ได้นั้น ประกอบด้วย 4 ปัจจัย ได้แก่ 1. ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหาร2. วัฒนธรรมองค์การ 3. ระบบสนับสนุน 4. บรรยากาศองค์การ และจากปัจจัยดังกล่าว จะส่งผลต่อการเป็นสถานศึกษาแห่งนวัตกรรม โดยจะบ่งชี้ถึงคุณลักษณะของความเป็นสถานศึกษาแห่งนวัตกรรม 5 ลักษณะ ประกอบด้วย 1. การมีวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และเป้าหมาย 2. โครงสร้าง 3. บุคลากร 4. การสื่อสาร 5. การจัดการความรู้และข้อมูลข่าวสาร</p> 2024-12-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JBURUS/article/view/1232 ความหลากหลายในห่วงโซ่อุปทาน: กลยุทธ์ใหม่เพื่อการผลิตและจัดหาวัตถุดิบที่ยั่งยืนในยุควิกฤต 2024-12-15T08:52:09+07:00 สรายุธ รัศมี sarayoot.r@kkumail.com <p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอแนวทางการจัดหาวัตถุดิบที่คำนึงถึงความหลากหลายในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Diversity) ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่มความยืดหยุ่นและลดความเสี่ยงขององค์กร โดยชี้ให้เห็นถึงการนำกลยุทธ์ใหม่ เช่น Multi-Sourcing, Regional Sourcing และการลดการพึ่งพิงแบบ Single Sourcing พร้อมทั้งวิเคราะห์บทบาทของเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น Blockchain, AI และ Big Data ในการเพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพในห่วงโซ่อุปทาน ผู้เขียนได้ศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับความหลากหลายในห่วงโซ่อุปทาน โดยมุ่งเน้นการพัฒนากลยุทธ์ใหม่สำหรับการผลิตและการจัดหาวัตถุดิบที่ยั่งยืนในบริบทของโลกที่เผชิญกับวิกฤตการณ์ระดับโลก เช่น การระบาดของ COVID-19 และความเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์</p> <p>จากการศึกษาพบว่า การบูรณาการแนวคิดด้านความยั่งยืน และหลัก ESG ในกระบวนการผลิตและจัดหาเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคง บทความนำเสนอกรณีศึกษาขององค์กรที่ประสบความสำเร็จในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่หลากหลายและยั่งยืน พร้อมทั้งสรุปข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์สำหรับองค์กรที่ต้องการปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในยุคแห่งความไม่แน่นอน</p> <p>การศึกษาในบทความนี้ไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการจัดการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานแต่ยังช่วยชี้แนวทางใหม่ให้กับองค์กรในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงระดับโลกอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนในระยะยาว</p> 2024-12-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ